ในปี 2565 ที่ผ่านมามีปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลายด้านทั้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้บริษัทต้องเร่งปรับเปลี่ยนแนวทางการรับมือในการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มความสำคัญกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อสอดรับกับการรับมือต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และคำนึงถึงความยั่งยืนขององค์กร สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) มุ่งมั่นสร้างการเติบโตและผลกำไรที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการให้ความสำคัญต่อการดูแลผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท ภายใต้แนวคิด “เคียงข้างคุณภาพชีวิตที่ดี” เพื่อส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริง และจากความ ท้าทายของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี บริษัทมีการพัฒนาและปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนด้าน IT เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานให้สามารถบริหารผลกระทบในเชิงลบจากอัตราเงินเฟ้อและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่มีความผันผวนตลอดทั้งปี

คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในการทำงานเพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสัดส่วนการครองส่วนแบ่งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการแข่งขันรุนแรงและได้รับผลกระทบจากกำลังการซื้อที่ลดลง และค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารของบริษัทมีความตื่นตัวต่อความท้าทาย และปรับเปลี่ยนแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในการบริหารการขายให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัวภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โดยในปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 789.85 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.8 จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่และได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น มีผลกำไรสุทธิเบ็ดเสร็จตามวิธีส่วนได้เสียเท่ากับ 35.7 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 56.6 จากผลประกอบการของบริษัทร่วมที่ลดลงจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีการปรับตัวในอัตราที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถสร้างผลกำไรต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 นับตั้งแต่การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

นอกจากความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตและผลกำไรอย่างยั่งยืนแล้ว คณะกรรมการและผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับการมีบทบาทและหน้าที่ตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างความยั่งยืน รวมถึงการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่นอย่างเคร่งครัด บริษัทเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) โดยได้รับการต่ออายุ (re-certify) เป็นครั้งที่ 2 และยังได้รับการประเมินผลคะแนน CG อยู่ในเกณฑ์ 5 ดาว (ดีเลิศ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะกรรมการ คณะผู้บริหาร และพนักงาน ในการบริหารจัดการตามกลยุทธ์ พัฒนาและยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน มีจริยธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่งผลให้บริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2022 กลุ่มรางวัล Business Excellence ประเภท Outstanding Best Investor Relation Awards จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และบริษัทจะยังคงยึดมั่นรักษาแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป

บริษัทยังคงส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างคุณค่าร่วมในสังคมและจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2565 ดังนี้

  • โครงการมุ่งทำดี ปลูกป่า สร้างฝายชะลอน้ำ จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับบริษัท ไทยพีเจ้น จำกัด
  • โครงการมุ่งทำดี ปลูกป่า จังหวัดแพร่ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • พนักงานบริษัทร่วมกันส่งต่อสุขภาพดี พร้อมอิ่มบุญ ไปกับโครงการอิ่มบุญไปกับ “เบา” ทุกยอดขาย 1 ลังโดยพนักงาน บริษัทร่วมสมทบ เพื่อบริจาคให้มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม
  • ร่วมบริจาคผลิตภัณฑ์พีเจ้นและของใช้จำเป็นแก่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท มูลนิธิวัดสวนแก้ว สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด เป็นต้น

สุดท้ายนี้ในนามของมุ่งพัฒนา ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น คู่ค้า ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ที่ได้ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา

ผมเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร และพนักงานจะยังคงมุ่งพัฒนาคุณค่าอย่างยั่งยืนของธุรกิจด้วยความรับผิดชอบร่วมกับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดีและการเติบโตที่ยั่งยืนตลอดไป

นายสุเมธ เลอสุมิตรกุล

ประธานคณะกรรมการบริษัท